เมื่อกล่าวถึง “เห็ดหลินจือ” เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักกันบ้างอยู่แล้ว โดยในสมัยโบราณมีการนำเห็ดหลินจือมาใช้ประโยชน์นานกว่า 2,000 ปี เนื่องจากถือว่าเป็นสมุนไพรชั้นสูงที่หายากต้องบุกป่าฝ่าดงเข้าไปเสาะแสวงหาให้ได้มาซึ่งสรรพคุณทางยาที่สุดวิเศษ ในทางพฤกษศาสตร์พบว่า เห็ดหลินจือ แบ่งประเภทตามลักษณะของสีและรูปร่างได้ 6 ชนิดด้วยกัน คือ หลินจือแดง ดำ เหลือง ขาว เขียว และม่วง
ทว่า จากการศึกษาวิจัยพบเห็ดหลินจือแดงมีสารที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด โดยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับ “โสม” ที่เป็นยาอายุวัฒนะ ยืดอายุให้ยืนยาว
สำหรับคุณสมบัติอันโดดเด่นของหลินจือแดงก็คือ ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค กำจัดสารพิษในร่างกาย กระตุ้นเซลล์ในร่างกายให้ทำงานเป็นปกติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความชรา บำรุงร่างกายเมื่ออ่อนเพลียหรือขณะพักฟื้นให้ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งช่วยควบคุมระบบไหลเวียนโลหิตให้ไหลเวียนสะดวกมากขึ้น
สายพันธุ์เห็ดหลินจือของเราเป็นเห็ดหลินจือแดงทั้ง 6 สายพันธุ์ ซึ่งแต่ละตัวมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

สายพันธุ์คิมซัน เป็นสายพันธุ์ที่มีออร์แกนิค เยอรมาเนียมสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี
ชลอความเสื่อมของผิวพรรณ ช่วยต้านมะเร็ง ปรับรอบเดือนสตรี และช่วยลดปัญหาต่อมลูกหมากในสุภาพบุรุษอีกด้วย

สายพันธุ์รูปสมอง เป็นสายพันธุ์ที่ช่วยปรับระบบการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า คลายความกังวล

สายพันธุ์รูปหัวใจ เป็นสายพันธุ์สิทธิบัตรของบริษัทกาโนเอ็กเซล ช่วยการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพมาก ช่วยปรับระบบภูมิต้านทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีระบบภูมิต้านทานไม่ปกติเช่น SLE เรื้อนกวาง เป็นต้น

สายพันธุ์รูปตับ เป็นสายพันธุ์สิทธิบัตรของบริษัทกาโนเอ็กเซล ช่วยขับล้างของเสียของร่างกาย ช่วยปรับระบบกระดูก ข้อต่อ ช่วยปรับสมดุลการไหลเวียนเลือด เช่น ไมเกรน เป็นต้น

สายพันธุ์ยูอี เป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยปรับระบบการหายใจ บำรุงปอด กระตุ้นภูมิต้านทาน ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ

สายพันธุ์รูปนกยูงรำแพน เป็นสายพันธุ์ที่ช่วยปรับการขับล้างของเสียที่ละลายได้ดีในน้ำ ช่วยปรับการทำงานของไตให้สมบูรณ์